เทคนิคในการปรับตั้ง LPG Fix Mixer
ซึ่งเป็นเทคนิคสำหรับการปรับตั้งโดยอาศัยสัมผัส เป็นเครื่องวัดและประเมินผล
สัมผัสที่ว่าคือ การฟัง เสียงเครื่อง สะดุดหรือไม่ สะดวกหรือเปล่า เสียงปลายท่อหวานแค่ไหนเวลาเร่ง
การดู เขม่าปลายท่อ ละอองน้ำที่ปนกับไอเสีย
การดม กลิ่นแกสปลายท่อ
การแตะ ความร้อนที่หม้อต้ม
แต่ยังไม่เคยใช้ลิ้นสัมผัส
ส่วนเครื่องวัดที่ติดรถมา เช่น วัดรอบ วัดอุณหภูมิ จำเป็นต้องใช้งานได้อย่างปกติ
ที่สำคัญที่สุด อย่าลืมต้องมีแกสอยู่ในถังและเปิดใช้ได้อย่างปกติ
1. การจูนระบบ LPG Fix Mixer กับเครื่องคาร์บูเรเตอร์ที่ไม่มีระบบเร่งรอบเมื่อเปิดแอร์
รถยนต์ระบบคาร์บูเรเตอร์ เมื่อจะเปลี่ยนจากเบนซินมาใช้ LPG จำเป็นต้องใช้เบนซินให้หมดคาร์บูเรเตอร์ก่อน
โดยการปิดปั๊ม(สำหรับปั๊มไฟฟ้า) หรือใช้ Solinoid Valve ปิดท่อเบนซินเข้าคาร์บูเรเตอร์
แต่เบนซินที่ยังค้างอยู่ในคาร์บูเรตอร์ก็ยังถูกนำไปใช้สร้างไอดีจนกว่าจะหมด
* ยังไม่รู้ว่ามีการปิดระบบเบนซินแบบทันมีทันใดได้
เมื่อเครื่องเย็นสนิท
1. ถ้าสตาร์ทแกสได้ก็สตารท์แกส ถ้าไม่ได้ก็สตาร์ทด้วยเบนซินรอจนความร้อนประมาณ 75 C
เพราะความร้อนของน้ำในเครื่องประมาณนี้จะถือว่าเครื่องจะเริ่มมสามารถใช้ไอดีเพื่อการเผาไหม้อย่างมีประสิทธิภาพ
วาล์วน้ำหลังปั๊มจะเปิดให้น้ำถ่ายเทความร้อนที่หม้อน้ำ ไม่จำเป็นต้องวนอยู่แถว ๆ เสื้อสูบ ฝาสูบ ท่ออุ่นไอดี
เราก็จะถือเอาเป็นเกณฑ์ว่ามันก็นทำงานกับแกสได้ดีเหมือนกัน
และที่สำคัญต้องแน่ใจว่าระบบโชคอากาศ(อัตโนมัติด้วยความร้อน และหรือไฟฟ้า)ต้องหยุดทำงานแล้ว
ถ้าเป็นระบบโชคอัตโนมือ(ดึงสาย) ก็เลยใช้เสียก่อน
2. เปลี่ยนมาใช้ระบบแกส ณ จุดความร้อนนี้ ถ้าเกจ์ความร้อนเสีย ก็ใช้มือสัมผัสเอาที่หม้อน้ำ(ไม่ควรใช้อวัยวะอื่นเพราะไม่สะดวก)
ตอนนี้ให้ทดสอบความร้อนของหม้อต้มแกส แตะที่ท่อน้ำร้อนเข้าหม้อต้มควรจะรู้สึกว่ามีความร้อนพอ ๆ กับท่อน้ำที่หม้อน้ำ
ถ้าร้อนน้อยกว่ามาก หรือแทบจะไม่ร้อนเลย ให้แก้ไขจุดนี้ก่อน
*ปกติท่อน้ำร้อนที่ต่อเข้าหม้อต้มควรต่อจากท่อน้ำร้อนจากฝาสูบ
ถ้าเป็น PG 505 ให้หาจุดต่อจากฝาสูบ เข้าหม้อต้ม ออกจากหม้อต้ม ไปเข้าโช้ค แล้วออกไปที่แท่นอุ่นไอดี ไปที่สายน้ำหลังปั๊มน้ำ
(แต่จริง ๆ เวลาเครื่องทำงานทิศทางการไหลของน้ำจะกลับกัน คือ จากปั๊มมาแท่นอุ่นไอดี ไปโช้ค เข้าหม้อต้ม ไปฝาสูบ ลงเสื้อสูบ กลับไปปั๊ม)
จนกว่าวาล์วน้ำจะเปิด
3. การตั้งส่วนผสมรอบเดินเบา
3.1 ตรวจสอบว่า Idle Screw ถูกเปิดอยู่หรือไม่ (ถ้ามันเปิดอยู่จะได้ยินเสียงแกสไหลดังซี๊ด ถ้าไม่ได้ยินแสดงว่าไม่เปิดหรือเปิดน้อย)
ให้หมุนออก(เท่าที่ตั้งมาจะประมาณ 1/4 รอบ หรือน้อยกว่า) เอาแค่พอให้ได้ยินเสียงเบา ๆ
3.2 ปิดการทำงานของไดอะแฟรมปั๊มแกสหม้อต้ม โดยการค่อย ๆ หมุน Sensitive Screw เข้าไป
ถ้ากำลังเดินเครื่องอยู่มีการลดรอบเครื่องลงให้สันนิษฐานว่ามีการทำงานของปั๊มขณะเครื่องเดินเบา ก็ค่อยลดลงไปอีกจนรอบเครื่องนิ่งก็พอ
3.3 ปรับส่วนผสมรอบเดินเบา โดยค่อย ๆ หมุน Idle Screw ออกมาก่อน จนถึงจุดเกือบจะดับก็ค่อย หมุนกลับเข้าไป
ให้ใกล้เคียงกับรอบเดินเบาของการเดินเครื่องด้วยเบนซินที่สุด
ซึ่งเป็นการตั้งค่าส่วนผสมรอบเดินเบา ง่าย ๆ แค่นี้
4. การตั้งส่วนผสมรอบเดินหนัก(เร่งรอบ)
4.1 กรณีที่มีระบบเร่งรอบ(อัตโนมัติ)เมื่อเปิดแอร์ และเปิดใช้ได้ตามปกติด้วยการเดินเครื่องด้วยเบนซิน
4.1.1 ตอนนี้คาดว่าปั๊มแกสในหม้อต้มยังไม่ทำงาน(เพราะถูกบังคับด้วย Sensitive Screw ไว้แล้วตาม 3.2)
ให้ค่อย ๆ ปรับ Sensitive Screw จนกว่าเครื่องจะเร่งรอบขึ้นเองโดยการกระตุ้นของระบบเร่งรอบ(อัตโนมัติ)เมื่อเปิดแอร์
เอาแค่มันเร่งขึ้นก็พอ เพราะเมื่อปั๊มมันเริ่มทำงานได้เมื่อถูกกระตุ้นด้วยแรงดูด(ที่คาดว่าต่ำที่สุดตามความต้องการของเครื่อง)
มันจะสามารถทำงานได้ต่อไปในรอบเครื่องที่สูงขึ้น
4.1.2 ปรับ Power valve โดยค่อยหมุนเข้าทีละนิดก่อนเพื่อลดการทำงานหาจุดต่ำสุดระหว่างการทำงานร่วมกันของ Power valve และ Sensitive
*ให้ใช้สีทำเครื่องหมายบนสกรูของ Power valve หมุนเข้าทีละนิดและหยุดรอผลก่อนประมาณ 10 วินาทีก่อน
เมื่อพบจุดต่ำสุด คือ เครื่องเริ่มสะดุดเดินไม่นิ่ง (มากเกินก็สะดุดเหมือนกัน) ให้คืนกลับมาเล็กน้อย
* ตอนนี้เป็นตอนที่หาผลสรุปยากมากว่าจุดใดเป็นจุดที่จะสามารถกำหนดส่วนผสม และตอบสนองการเร่งได้ดีที่สุด
ส่วนใหญ่จะต้องทดสอบโดยการวิ่งจริง ถ้าไม่มีกำลังขณะเร่ง ก็เปิด Power valve ให้มากขึ้นทีละนิด
4.2 กรณีที่ไม่มีระบบเร่งรอบ(อัตโนมัติ)เมื่อเปิดแอร์
ขั้นตอนก็คล้าย ๆ กัน เพียงแต่ต้องหมุนล้อบังคับลิ้นเร่งเอาเอง แต่ค่อย ๆ หมุนเร่งขึ้น
ถ้ายังเร่งไม่ขึ้น ก็ปรับ Sensitive Screw ทีละนิดจนกว่าจะกว่าสามารถขยับขึ้นก็เร่งได้ เป็นพอ
(ระวังสายเร่งหย่อนเกินเวลาเหยียบคันเร่งจะมีช่วงหายไปนิดหนึ่ง)
กรณีที่เกิดขึ้นเท่าที่เคยพบในปรับตั้งที่คิดว่าไม่สมบูรณ์
ปัญหาที่พบมาเนื่องจากบางครั้งไม่ได้ทดสอบแก้ปัญหาตามสมมติฐานที่ละอย่าง และบางครั้งไปเกี่ยวข้องกับระบบหลักที่ไม่สมบูรณ์
เวลาแก้ปัญหาถ้าจูนนิดหน่อยแล้วไม่ดีขึ้น ส่วนใหญ่ไปแก้ระบบหลัก เช่น ล้างไส้กรองอากาศ อาการก็หายไป
ดังนั้นจะต้องอาศัยการเดินเครื่องด้วยเบนซินเป็นการเทียบตลอด
ถ้าวิ่งด้วยเบนซินแล้วไม่เกิดอาการ ค่อยปรับแก้ระบบ LPG แต่ถ้ามีอาการคล้าย ๆ กันแล้วจะแก้ที่ระบบหลักก่อน
1. ไม่มีกำลังในรอบต่ำ ทดสอบโดยการวิ่งเกียร์สูงในรอบเครื่องเกือบจะถึงรอบเดินเบาแล้วมีอาการกระตุก เปิด Powedr valve น้อยไป
2. ความร้อนสูงเร็ว ผิดปกติ เปิด Powedr valve น้อยไป
3. เร่งได้แรงผิดปกติ เกินเบนซิน เปิด Power valve มาก Sensitive ทำงานเร็ว
ระวังอาการหลายอย่างไม่ได้เกิดจากการจูน แต่เกิดจากส่วนที่เกี่ยวข้อง
เช่น ท่อลมรั่ว แกสสกปรก เขม่าอุดตันใน Vaccum เซนเซอร์เสีย สายสัญญานหลุด

